Lynae Cordeceps 100 mg.+Reishi 40mg. 100 Caps
Cordyceps Sinensis ถั่งเฉ้า
An ancient herb for modern lifestyle สมุนไพรโบราณเพื่อชีวิตสมัยใหม่
ถั่งเฉ้า คืออะไร
ถั่งเฉ้า คือ หนึ่งในสมุนไพรที่มีคุณค่ามากที่สุดในการแพทย์แผนจีนที่ถูกใช้มาประมาณ 1,500 ปีแล้ว ถั่งเฉ้าเป็นสมุนไพรที่ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ส่วนที่เป็นตัวอ่อนของผีเสื้อที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hepialus armoricanus และบนตัวอ่อนมีเห็ดที่มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cordyceps sinensis เจริญเติบโตอยู่ เนื่องจากสมุนไพรชนิดนี้ฤดูหนาวเหมือนหนอน แต่ฤดูร้อนจะงอกเป็นต้นหญ้าได้ จึวถูกเรียกว่า “หญ้าหนอน”
ตามตำราการแพทย์แผนจีนมีการใช้ถั่งเฉ้าเพื่อ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของปอด ทำให้ใช้ออกซิเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่อต้านความเหนื่อยล้า และทำให้สุขภาพร่างกายโดยรวมดีขึ้น ในขณะเดียวกันก็ช่วยปรับสมดุลชี่ ซึ่งเป็นพลังงานพื้นฐานของชีวิตที่ทำให้มนุษย์สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ในแต่ละวัน
สมุนไพรโบราณเพื่อชีวิตสมัยใหม่
ตั้งแต่ปี 1990 กระแสทางการแพทย์มีการเปลี่ยนแปลงไปยอมรับการรักษาด้วยวิธีธรรมชาติบำบัดมากขึ้น มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับประสิทธิภาพของธรรมชาติบำบัดในการรักษา และบำรุงสุขภาพมากมาย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ความสนใจเกี่ยวกับการใช้สมุนไพรร่วมกับการรักษาแผนปัจจุบัน สิ่งที่ตามมา ก็คือ ตลาดของสมุนไพรเริ่มเป็นที่รู้จัก แม้แต่ประเทศทางตะวันตกเองก็ยังเริ่มใช้ประโยชน์จากสมุนไพรอย่างเช่น ถั่งเฉ้า
เพื่อต่อต้านปัญหาระบบทางเดินหายใจ
การศึกษาซึ่งตีพิมพ์โดย Taiwan Prediatric Association ในเดือนเมษายน 1996 รายงานถึงประโยชน์ของถั่งเฉ้า ในการรักษาโรคหอบหืดและภูมิแพ้ว่า เป็นตัวช่วยคลายกล้ามเนื้อเรียบบริเวณหลอดลมในโรคหอบหืด เช่นเดียวกันกับยาที่ช่วยขยายหลอดลมก็ทำงานโดยช่วยขยายหลอดลม ผลที่ตามมาก็คือ หลอดลมขนาดเล็กจะรับอากาศได้ดีขึ้น ทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น
นอกจากการรักษาอาการที่กำเริบขึ้นมาแล้ว การป้องกันโรคหอบหืดก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน ถั่งเฉ้าช่วยลดความถี่ในการเกิดหอบหืด โดยไปลดการอักเสบของปอด และลดปฏิกิริยาตอบสนองของทางเดินหายใจ
ถั่งเฉ้ามีประโยชน์ต่อโรคในระบบทางเดินหายใจ ทั้งในแง่ของการรักษาและป้องกัน เนื่องจากถั่งเฉ้ามีผลเพิ่มภูมิคุ้มกัน ช่วยขยายหลอดลม อีกทั้งยังสามารถช่วยลดปฏิกิริยาตอบสนองของทางเดินหายใจและการอักเสบได้
เพื่อเพิ่มความอดทน
ถั่งเฉ้าถูกเชื่อว่าช่วยเพิ่มการทำงานของต่อมหมวกไตและทำให้คุณแข็งแรง มีพลัง อกทนต่อการทำกิจกรรมต่างๆได้มากขึ้น ช่วยยอยกรดแลคติก ( Lactic acid ) และกรดอะเซตินิก ( Acetinic acid ) ซึ่งเป็นของเสียในกล้ามเนื้อ ทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยน้อยลงระหว่างเครียด มีการใช้กำลัง หรือเพิ่มขีดความสามารถของการเคลื่อนไหว นอกจากนี้ยังลดอาการที่เกิดจากการฝึกซ้อมมากเกินไป ( Overtraining syndrome : OS ) และอ่อนเพลียเรื้อรัง ( Chronic fatigue : CF )
ถั่งเฉ้าได้รับความสนใจจากสาธารณชนในปี 1993 เมื่อมีนักวิ่งชาวจีนทำลายสถิติโลก หลังจากตรวจสารสเตียรอยด์แล้วพบว่า ไม่พบสารสเตียรอยด์ พบเพียงว่ามีการใช้สูตรสมุนไพรจีนในกลุ่มนักกีฬาต่างๆ ซึ่งหนึ่งในส่วนผสมของสูตรสมุนไพรจีนนั้นมีถั่งเฉ้าผสมอยู่ด้วย
เพื่อชีวิตที่ยืนยาว
บ่อยครั้งที่ความเครียดมีสาเหตุมาจากอนุมูลอิสระ ส่งผลให้เกิดสิ่งที่เราเรียกว่า กระบวนการชราภาพ ขณะที่ความชราภาพเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ บางทีเราอาจจะเร่งผลของกระบวนการนี้ โดยไม่ป้องกันตัวเอง ดังนั้นจึงเกิดเหตุการณ์ที่เรียกว่า แก่ก่อนวัย อาการเริ่มต้นคือ อ่อนแรง ระบบทางเดินหายใจทำงานผิดปกติ เบาหวาน โรคหัวใจ และปัญหาอื่นๆ ที่เป็นผลมาจากการทำลายของอนุมูลอิสระ การทำลายจากอนุมูลอิสระเป็นผลให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง การใช้ถั่งเฉ้าเสริม จะช่วยหยุดยั้งความชราภาพ และรักษาสุขภาพโดยกำจัดอนุมูลอิสระในร่างกายนุษย์ และลดการทำลายกระบวนการชีวเคมีของร่างกาย
เหมาะสำหรับ
• ผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น ไข้หวัด หอบหืด ไซนัสอักเสบ เยื่อจมูกอักเสบ
• ผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ หรือนักกีฬา
• ผู้ที่ต้องการเสริมสร้างร่างกายให้มีพลังในการทำกิจกรรมต่างๆ
• ผู้ที่รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง
• ผู้ที่มีอาการเหนื่อยล้าเนื่องจากออกกำลังกายมากเกินไป หรือ จากอายุ
• ผู้ที่ต้องการป้องกันความชราภาพ
• ผู้ที่เป็นหมัน เพราะถั่งเฉ้าช่วยเพิ่มความต้องการทางเพศ และช่วยเพิ่มจำนวนสเปิร์ม
หลินจือ
สารสำคัญในเห็ดหลินจือ พอจะจำแนกออกเป็นกลุ่มได้ ดังนี้
- โพลีแซคคาไรด์ ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด บำรุงหัวใจ
- ไตรเทอร์ปีนอยด์ ต้านพิษในตับ ยับยั้งการสร้างคอเลสเตอรอล
- นิวคลีโอไทด์ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อไวรัส คลายกล้ามเนื้อ
- เจอร์มาเนียม ส่งเสริมขบวนการทำงานของร่างกายสามารถรวมตัวและช่วยกำจัดสารพิษสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ
- อัลคาลอยด์ มีฤทธิ์ในการกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดในหัวใจ ลดแรงต้านทานในผนังของเส้นเลือดหัวใจ
- กรดอะมิโนจำเป็น
คำแนะนำในการรับประทาน
• รับประทานครั้งละ 100 มิลลิกรัม วันละ 1-2 ครั้ง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น