มาเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับหน้า หลังทายารักษาสิวกันกับ "เจลว่านหางจระเข้" (ALOE VERA GEL) หน้าแดง หน้าลอก ไม่ควรพลาด
ข้อมูลรีวิวจาก >> http://acnedefend.blogspot.com/2013/11/phytocare-aloe-vera-gel.html
สำหรับคนที่ต้องทายารักษาสิวพวก Benzac , Differin , Ratin A หรือยาละลายสิวตัวอื่นๆ มันจะเจอกับปัญหาในเรื่องผิวหน้าที่มักจะแห้ง ลอกเป็นขรุยๆ จนบางครั้งอาจรู้สึกแสบหน้าเลยด้วยซ้ำ ที่เป็นอย่างนี้ก็เพราะเป็นผลข้างเคียงจากการทายารักษาสิว ที่มักจะทำให้ผิวหน้าของเราขาดความชุ่มชื้น พูดง่ายๆก็คือหน้าถูกดูดน้ำในผิวออกไปนั่นเอง
สิวหายแต่ผิวหน้าแย่
การทายารักษาสิวนั้นถึงแม้ว่าจะสามารถช่วยรักษาสิวให้หายได้ แต่เราก็ต้องแลกกับสภาพผิวที่ย่ำแย่ แห้งกร้าน ผิวขาดน้ำ ขาดความชุ่มชื้น ซึ่งมันจะคุ้มกันหรือเปล่าก็ต้องชั่งน้ำหนักกันเอาเอง สิวหายแต่ผิวหน้าแกก่อนวัย ถ้าเราไม่รู้จักบำรุงรักษาผิวหน้าของเรารับรองได้เลยว่า ริ้วรอยบนหน้าได้ถามหากันตั้งแต่ 30 แน่นอน ซึ่งคงไม่มีใครอยากเป็นอย่างนั้นแน่นอน
ดังนั้นวันนี้ก็เลยอยากพูดถึงสรรพคุณของว่านหางจระเข้ที่สามารถช่วยในเรื่องการรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวหน้า รวมไปถึงความสามารถในการช่วยสมานแผล ซึ่งโดยทั่วไปจะนิยมเอามาทาเพื่อบรรเทาแผลจากการโดนไฟไหม้ น้ำร้อนลวก หรือบรรเทาอาการแสบแดงหลังจากโดนแดดเผาแรงๆ ก่อนอื่นมาดูสรรพคุณของว่านหางจระเข้กันก่อนว่ามีอะไรน่าสนใจกันบ้าง แต่ขอพูดถึงตัวที่เกี่ยวกับเรื่องสิวและผิวพรรณเท่านั้นนะครับ
ว่านหางจระเข้ดีต่อผิวหน้าอย่างไร?
ช่วยรักษาความชุ่มชื้นของผิวหน้า ช่วยให้ผิวกักเก็บน้ำได้ดีขึ้น เปรียบได้กับเป็นมอยเจอไรเซอร์จากธรรมชาติเลยก็ว่าได้
ลดอาการแสบร้อนของผิวหน้า ไม่ว่าจะเกิดจากการโดนแดดเผา โดนของร้อนๆ หรืออาการแสบคันจากการทายารักษาสิว
ลดความคันจากผดผื่นคันที่หน้า ในว่านหางจระเข้จะมีสารที่ช่วยลดความคันบนผิวหนังได้ดี ใครที่ชอบเป็นผื่นคันแดง สามารถทาว่านหางจระเข้เพื่อลดอาการเหล่านี้ได้
ช่วยลดรอยแผลเป็น ลอยแผลเป็นจากสิว จุดด่างดำ รอยแดงจากสิว ที่เป็นรอยบางๆ หรือรอยแผลใหม่ๆที่ยังไม่เป็นพังผืด
เป็นไงบ้างครับกับประโยชน์ในการบำรุงผิวหน้าของว่านหางจระเข้ น่าสนใจใช่มั๊ยครับ ส่วนตัวแล้วผมชอบของที่มาจากธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะผมคิดว่ามันช่วยแก้ปัญหาที่เราต้องการแก้ได้ปลอดภัยกว่าการใช้สารเคมีต่างๆ ถึงแม้ว่าอาจจะช้าหน่อยแต่ก็ปลอดภัยกว่ากันครับ
แต่ถ้าจะให้มานั่งเตรียมว่านหางจระเข้ทุกๆวันก็คงจะเสียเวลาไม่น้อย เพราะการเตรียมวุ้นว่านหางจรเข้นั้นค่อนข้างต้องพิถีพิถันสักหน่อย โดยเฉพาะการล้างยางของว่านหางจระเข้นั้นต้องล้างออกให้หมดจริงๆ ไม่อย่างนั้นหากเอามาทาหน้า อาจโดนยางของมันกัดหน้าได้
อีกทางเลือกหนึ่งที่เหมาะสมกับหนุ่มสาวสมัยใหม่นั่นก็คือการใช้ "เจลว่านหางจระเข้แบบสำเร็จรูป" ที่มีวางขายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งก็พอจะแทนกันได้ ถึงแม้จะไม่ดีเท่าใช้ว่างหางจระเข้จริงๆมาทา แต่ถ้าเทียบกับความสะดวกแล้วก็น่าใช้อยู่ไม่น้อย โดยเจลว่านหางจระเข้ที่วางขายอยู่ก็มีอยู่หลายยี่ห้อ แต่เจลว่าหางจระเข้ตัวที่โดดเด่นที่สุดและไม่พูดถึงคงไม่ได้ก็คือ "เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัช" (Phytocare Aloe Gel) มาดูกันว่าเจลว่านหางจระเข้ตัวนี้เป็นยังไง? และมีดียังไงบ้าง? รวมไปถึงมันสามารถช่วยในเรื่องสิวได้หรือไม่? เชิญอ่านต่อได้เลยครับ
เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัช(Phytocare Aloe Gel)
เจลว่านหางจระเข้ตัวนี้ก็เป็นลิขสิทธิ์ขององค์กรเภสัชเค้า ซึ่งจัดว่าเป็นเจลว่านหางจระเข้ที่ได้รับความนิยมมากๆตัวหนึ่ง จุดเด่นของเจลว่านหางจระเข้ตัวนี้ก็คือ มันไม่ผสมแอลกอฮอร์และน้ำหอม ทำให้เวลาทาลงไปที่หน้าจะไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองที่หน้า ช่วยให้ผิวหน้าชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดี และจุดเด่นอีกจุดหนึ่งที่เด่นมากๆก็คือ เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชนั้นราคามันถูกมาก หลอดหนึ่ง 30g ราคา 40-50 บาทเท่านั้น ขึ้นอยู่กับว่าซื้อที่ไหน หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป ,Watson , Boots , ร้านแถวๆศิริราชมีหมด
ลองใช้เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชมา แล้วเป็นยังไง?
เนื้อเจล
จากการที่ผมได้ทดลองใช้เจลว่านหางจระเข้ตัวนี้มา หากพูดถึงในเรื่องของเนื้อเจลนั้นค่อนข้างจะข้นไปสักหน่อย ทำให้เวลาทามันจะซึมช้า บางทีถ้าทาหนาๆเหมือนมันจะไม่ซึมเลย มันจะไปเคลือบผิวบริเวณที่ทาซะมากกว่า
ความชุ่มชื้น
สำหรับการรักษาความชุ่มชื้นถือว่าทำได้ดีเลย ผมเคยใช้ตอนหน้าหนาว ตอนที่ผิวแห้งและหน้าลอกง่าย ได้ผลดีเลยล่ะ ช่วยให้ผิวหน้าไม่แห้งลอก หน้าดูชุ่มชื้นดีเวลาที่ทา
ความรู้สึกเวลาที่ทาลงหน้า
ความรู้สึกแรกที่ชัดเจนที่สุดก็คือกลิ่นของมันนี่แหละ มันจะฉุนๆเป็นกลิ่นของว่านหางจระเข้ชัดเจนเลยล่ะ ไม่รู้ว่าใครจะรู้สึกยังไงนะ แต่ผมรู้สึกว่ามันเหม็น แต่เวลาที่ทาลงบนหน้าเราจะรู้สึกว่าหน้าเราเย็นขึ้นอย่างรู้สึกได้ทันที ยิ่งเอาไปแช่ตู้เย็นไว้แล้วค่อยเอามาทา จะรู้สึกว่าทาแล้วสดชื่นขึ้นมาทันที ใครไม่เคยลองดูได้ครับ
เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชกับเรื่องสิว
มีหลายคนบอกว่าเจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชไม่ช่วยเรื่องสิว แต่สำหรับในความคิดผมนั้น มันไม่ถูกต้องซะทีเดียว ผมคิดว่าต้องเปลี่ยนเป็นคำว่า "เจลว่านหางจระเข้ขององค์การเภสัชไม่ช่วยเรื่องสิวโดยตรง"มากกว่า แต่มันช่วยเรื่องสิวแบบอ้อมได้ดีเลยล่ะ ที่มันไม่ช่วยเรื่องสิวโดยตรง ก็เพราะมันไม่มีตัวยาไปใช้สำหรับกำจัดเชื้อสิวโดยตรง ซึ่งก็ถูกต้องแล้วเพราะมันไม่ได้ทำมาเพื่อจุดประสงค์นี้ แต่ความสามารถของมันก็ช่วยรักษาสิว ลดการเกิดสิวเช่นกัน แต่อ้อมๆมา
ที่บอกอย่างนี้ก็เพราะว่าสาเหตุการเกิดสิวนั้นมันมีหลายสาเหตุ การที่หน้าเราขาดความชุ่มชื้น ผิวหนังระคายเคืองอยู่ตลอดเวลา ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน การทาเจลว่านหางจระเข้นั้นสามารถช่วยฟื้นฟูสภาพผิวที่แห้งกร้านของเรา ให้กลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง อีกทั้งยังมีสรรพคุณในการช่วยสมานแผล ช่วยลดจุดด่างดำ รอยแผลสิว ได้อีกด้วย โดยเฉพาะกับคนที่ต้องทายาละลายสิวเป็นประจำ ก็ควรใช้เจลว่านหางจระเข้มาทาบำรุงผิวไว้บ้างก็ดี หน้าจะได้ไม่แห้งและระคายเคืองจนเกินไป สิวหายแล้วหน้าใสมีสุขภาพดีด้วยก็คงดีกว่า "สิวหายแล้วหน้าแก่" จริงมั๊ยครับ!!!
สนใจผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม ที่>>
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น