http://www.true100percent.com/

http://www.true100percent.com/
สั่งซื้อสินค้าอออนไลน์ ได้ง่ายๆ คลิกเลย^^ www.true100percent.com
atopalm atopiclair Beta-Curve Bio-oil BK MASK burnova cetaphil CG210 COLLA-L creatine activ Dermalis DERMALIS skincare dermatix Dr.Jill DYMABURN Ellgy eucerin EZERRA Gluta Mc Plus HAKUBI C Gel Helionof Himalaya hiruscar LA ROCHE LIPO8 MAXKIN MC PLUS mederma MEDMAKER Meiji Melloderm-HQ Neocell okamoto OMG Physiogel pico Preme SAND-M scagel scaresthetique scargel Smooth-E spectraban TOMEI Vistra vitara berich Zermix กระชับสัดส่วน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน กันแดด ครีมบำรุงผิว เคล็ดลับสุขภาพดี เคล็ดลับหน้าขาวใส ช่วยนอนหลับ ที่ตรวจการตกไข่ ที่ตรวจครรภ์ใช้ง่าย ที่ตรวจยาบ้า บำรุงกระดูกและข้อต่อ บำรุงสุขภาพ ปากแห้ง ผมร่วง ผิวขาว ผิวแพ้ง่าย เพิ่มสมรรถภาพชาย มาส์กหน้าใส รักษาฝ้า รักษาสิว ลดน้ำหนัก ลบรอยแผลเป็น ลิปบาล์ม สมุนไพร กลูต้าไทโอน คอลลาเจน ตังถังเช่า ถังเช่า ถุงยางอนามัย ทับทิม เวย์โปรตีน AHA Aloe vera grape seed Urea อุปกรณ์การแพทย์ FOR MEN FOR WOMEN Review COSMETIC Review Vitamin

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ความหมาย ท้องเสีย


ความหมาย ท้องเสีย


ท้องเสีย หรือ อุจจาระร่วง (Diarrhea) เป็นอาการถ่ายอุจจาระเหลวหรือเป็นน้ำมากกว่าปกติ หรือในบางครั้งถ่ายเป็นมูกปนเลือดหลังจากการรับประทานอาหารที่มีการปนเปื้อนของเชื้อโรคเข้าไป โดยอาการจะเกิดขึ้นในระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน แต่ในบางรายอาจอาการเรื้อรังนานหลายสัปดาห์ ซึ่งอาจเกิดจากโรคอื่น ๆ ได้ เช่น โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory Bowel Disease: IBD) หรือโรคลำไส้แปรปรวน (Irritable Bowel Syndrome: IBS)



อาการท้องเสีย

อาการของโรคที่พบได้บ่อย จะมีการถ่ายอุจจาระเหลว ถ่ายเป็นน้ำมากกว่า 3 ครั้งขึ้นไป หรือถ่ายเป็นมูกปนเลือด 1 ครั้งหรือมากกว่านั้นภายใน 24 ชั่วโมง ในบางรายอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการตะคริวที่บริเวณหน้าท้อง ปวดท้อง ท้องอืด คลื่นไส้ อ่อนเพลีย รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว และมีไข้

ถึงแม้ท้องเสียจะเป็นอาการที่ไม่ร้ายแรง แต่อาจสร้างความทรมานให้แก่ผู้ป่วยและเป็นเรื้อรังจนก่อให้เกิดโรคอื่น ๆ ตามมาในภายหลัง ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการดังต่อไปนี้
เกิดภาวะขาดน้ำหรือมีอาการของโรคมากกว่า 2 วัน (สำหรับเด็กเล็กหรือทารกหากมีอาการเกิน 1 วัน ควรรีบพาไปพบแพทย์ เนื่องจากเสี่ยงกับการเสียชีวิตภายใน 1-2 วัน จากภาวะขาดน้ำ)
มีอาการปวดอย่างรุนแรงในช่องท้องหรือทวารหนัก
ไข้ขึ้นสูงกว่า 39 องศาเซลเซียส
ถ่ายอุจจาระมีเลือดหรืออุจจาระเป็นสีดำ

สาเหตุของท้องเสีย

โดยปกติลำไส้จะดูดซึมสารอาหารในรูปแบบของเหลวจากสิ่งที่รับประทานเข้าไปในร่างกายจนเหลือแต่กากใยทิ้งไว้ แต่เมื่อเกิดอาการท้องเสียขึ้น ทำให้ลำไส้ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ สารอาหารเหล่านั้นจึงไม่ถูกดูดซึมและถูกขับออกมาจากร่างกาย ซึ่งการถ่ายอุจจาระเหลวหรือถ่ายเป็นมูกเลือดนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น
การติดเชื้อแบคทีเรีย การติดเชื้อแบคทีเรียส่วนใหญ่เกิดจากการรับประทานอาหารหรือน้ำที่มีการปนเปื้อนของเชื้อ Campylobacter, Salmonella, Shigella หรือ Escherichia coli (E. coli) เข้าไปในร่างกาย
การติดเชื้อไวรัส มีไวรัสหลายชนิดที่ก่อให้เกิดอาการท้องเสีย เช่น rotavirus, norovirus, cytomegalovirus, herpes simplex virus, viral hepatitis ฯลฯ โดยเชื้อไวรัส rotavirus เป็นสาเหตุของการเกิดอาการท้องเสียในเด็กมากที่สุด ซึ่งสามารถหายได้ภายใน 3-7 วัน แต่อาจจะก่อให้เกิดปัญหาในการย่อยและดูดซึมแล็กโทสที่พบในน้ำนมได้
การได้รับเชื้อปรสิต เชื้อปรสิตสามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านอาหารและน้ำที่ปนเปื้อน และอาศัยอยู่ในระบบย่อยอาหารของคนเรา เชื้อปรสิตที่มักพบ คือ Giardia lamblia, Entamoeba histolytica และ Cryptosporidium
โรคระบบทางเดินอาหารและระบบลำไส้ผิดปกติ ก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการท้องเสีย เช่น โรคโครห์น (Crohn’s Disease) โรคลำไส้อักเสบ โรคลำไส้ใหญ่อักเสบเป็นแผลเรื้อรัง โรคเซลิแอคหรือแพ้กลูเตน โรคลำไส้แปรปรวน
แพ้อาหารหรือธาตุอ่อน บางคนมีปัญหาในการย่อยสารอาหารบางประเภทหรือที่เรียกว่า ภูมิแพ้อาหาร เช่น การแพ้แล็กโทส ซึ่งเป็นน้ำตาลที่พบมากในนมหรือผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม หรือสารทดแทนความหวานในปริมาณมาก ก็อาจก่อให้เกิดอาการท้องเสียได้เช่นกัน
การตอบสนองต่อยาบางประเภท เช่น ยาปฏิชีวนะ ยารักษาโรคมะเร็ง และยาลดกรดที่มีแมกนีเซียม ก็สามารถทำให้เกิดอาการท้องเสียได้
การผ่าตัดกระเพาะอาหาร ในผู้ป่วยบางรายที่เคยเข้ารับการผ่าตัดกระเพาะอาหารบางส่วนออกไป อาจเกิดภาวะการดูดซึมอาหารที่ผิดปกติ เนื่องจากเชื้อโรคที่ปนเปื้อนในอาหารไม่ถูกย่อยทำลายเมื่อเข้าสู่กระเพาะอาหาร จึงเล็ดลอดไปสู่ลำไส้เล็กและสร้างสารพิษขึ้น ส่งผลให้ผนังลำไส้เล็กเกิดอาการอักเสบ ไม่สามารถดูดซึมน้ำและอาหารได้เป็นปกติ ทำให้เกิดอาหารท้องเสียขึ้น

ภาวะขาดน้ำและเกลือแร่ (Dehydration) กับอาการท้องเสีย

อาการที่ควรระวังมากที่สุด คือ ภาวะร่างกายขาดน้ำและเกลือแร่ (หรือที่เรียกว่า อิเลคโทรไลต์) ซึ่งส่งผลกระทบต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ และระบบการทำงานหลักอื่น ๆ ในร่างกาย ถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งโดยเฉพาะในเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เพราะอาจทำให้อวัยวะภายในเกิดความเสียหาย ร่างกายเกิดอาการช็อก และหมดสติ

สำหรับในผู้ใหญ่ สัญญาณบ่งบอกว่าร่างกายกำลังเผชิญกับภาวะขาดน้ำสังเกตได้จาก มีอาการกระหายน้ำมากกว่าปกติ ปัสสาวะน้อยกว่าปกติและมีสีเข้ม ผิวแห้ง มีอาการเมื่อยล้า วิงเวียนศีรษะ ฯลฯ ส่วนในทารกและเด็กเล็ก จะพบว่ามีอาการปากและลิ้นแห้ง ร้องไห้ไม่มีน้ำตา มีการถ่ายปัสสาวะน้อยภาย 3 ชั่วโมงหรือมากกว่านั้น ดวงตาบุ๋มเล็กน้อย มีไข้สูง กระสับกระส่ายหรือหงุดหงิด เป็นต้น

แม้ว่าการดื่มน้ำมาก ๆ จะช่ว่ยป้องกันภาวะขาดน้ำ แต่ร่างกายยังคงต้องการเกลือแร่อยู่ ดังนั้นหากเกิดภาวะการขาดน้ำในผู้ใหญ่ นอกจากการดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอแล้ว ควรรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมแร่ธาตุวิตามินให้กับร่างกาย หรือเครื่องดื่มเกลือแร่ แต่ในเด็กเล็กที่มีอาการท้องเสีย ผู้ปกครองควรให้รับประทานผงน้ำตาลเกลือแร่ หรือ โออาร์เอส (ORS) เพื่อบรรเทาภาวะการขาดน้ำเบื้องต้น

การวินิจฉัยอาการท้องเสีย

อาการท้องเสียสามารถเกิดได้หลายสาเหตุ โดยขั้นแรกแพทย์จะซักถามประวัติ สอบถามอาการ และตรวจร่างกายเบื้องต้นในกรณีที่อาการของโรคไม่รุนแรง แต่หากอาการรุนแรงหรือสาเหตุไม่ชัดเจน แพทย์จำเป็นต้องใช้การตรวจทางห้องปฏิบัติอื่น ๆ เพิ่มเติม เช่น การตรวจเลือด การตรวจอุจจาระ การส่องกล้องตรวจลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

การรักษาอาการท้องเสีย

ผู้ป่วยส่วนใหญ่ไม่จำเป็นต้องมีการรักษาเฉพาะ แต่สิ่งที่จำเป็น คือ ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อชดเชยน้ำและเกลือแร่ที่สูญเสียไป หรืออาจรับประทานผงน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส (ORS) เพื่อบรรเทาอาการ หรือรับประทานยาสามัญตามเภสัชกรแนะนำ เช่น ยาหยุดอาการท้องเสียก็สามารถช่วยบรรเทาอาการให้ดีขึ้นได้ แต่ในกรณีที่ถ่ายอุจจาระเป็นเลือดจากการติดเชื้อปรสิตหรือแบคทีเรียไม่ควรรับประทานยาประเภทนี้เนื่องจากจะเป็นการกักเก็บเชื้อโรคหรือของเสียไว้ในลำไส้ ทำให้อาการท้องเสียหายได้ช้าลงหรือแย่ลงกว่าเดิม แต่ควรปรึกษาแพทย์ในการรับประทานยา ซึ่งแพทย์มักจะสั่งจ่ายยาต้านจุลชีพให้

การดูแลตนเองเบื้องต้นเมื่อเกิดอาการท้องเสีย ควรระมัดระวังเรื่องการรับประทานอาหารและความสะอาดเป็นหลัก ผู้ป่วยควรเลือกรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม น้ำซุป ขนมปัง และควรหลีกเลี่ยงอาหารหมักดอง ไขมันสูง เครื่องดื่มคาเฟอีน ของหวาน ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับนม และอาหารรสจัด หากมีอาการอ่อนเพลียจากการเสียน้ำและเกลือแร่ ควรดื่มผงน้ำตาลเกลือแร่ โออาร์เอส (ORS) โดยจิบทีละนิด และจิบบ่อย ๆ

หากอาการดีขึ้นแล้ว สามารถรับประทานอาหารที่ย่อยง่าย มีกากใยสูง รวมไปถึงผลิตภัณฑ์ที่มีจุลินทรีย์ชนิดดีหรือโปรไบโอติก เช่น โยเกิร์ต นมเปรี้ยว ซึ่งมีส่วนในการช่วยลำไส้ย่อยอาหาร ที่สำคัญควรระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหารที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ

การป้องกันอาการท้องเสีย

ท้องเสียสามารถเกิดขึ้นได้บ่อยครั้งในชีวิตประจำวัน การรักษาความสะอาดและเลือกรับประทานอาหารที่ถูกสุขอนามัยเป็นการป้องกันที่ดีสุด หรือปฏิบัติตามคำแนะนำเบื้องต้นเหล่านี้
ล้างมือให้สะอาดก่อนและหลังรับประทานอาหารหรือสัมผัสกับอาหาร หลังการเข้าห้องน้ำ หรือจับสิ่งสกปรกอื่น ๆ เพื่อป้องกันแพร่กระจายของเชื้อโรค
ในกรณีที่ไม่สามารถล้างมือได้ ควรใช้เจลล้างมือที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยฆ่าเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เลือกรับประทานอาหารอย่างระมัดระวัง เช่น รับประทานของร้อน อาหารที่สะอาด สดใหม่ หลีกเลี่ยงผักผลไม้สดที่ล้างไม่สะอาด เนื้อสัตว์ดิบ และผลิตภัณฑ์ประเภทนม
ไม่ควรวางอาหารทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องนาน ๆ ควรเก็บเข้าตู้เย็น เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย
ควรทำความสะอาดบริเวณที่มีการเตรียมอาหารให้ถูกสุขลักษณะ รวมถึงการล้างมือให้สะอาด ขณะเตรียมอาหาร
เลือกดื่มน้ำที่สะอาด ถูกสุขลักษณะ


https://www.pobpad.com

สนใจสินค้านี้ สั่งซื้อราคาถูกพิเศษที่>>http://www.vitamin24hr.com
ถูกที่สุดทั่วไทย สินค้าบริษัท
แอดไลน์ที่>> http://line.me/ti/p/%40vitamin24hr
หรือ ไลน์ไอดี @vitamin24hr
****
วันนี้กดไลค์เพจเราและแชร์แบบสาธารณะ เพื่อลุ้นรับขนาดทดลอง จัดส่งถึงบ้าน ประกาศผลทุกสิ้นเดือนจ้า ^__^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

www.True100percent.com โทร 092-6161666, 02-0027539 : LINE: @mox9486f

เวชสำอางค์ ให้คุณช้อปจนจุใจ