http://www.true100percent.com/

http://www.true100percent.com/
สั่งซื้อสินค้าอออนไลน์ ได้ง่ายๆ คลิกเลย^^ www.true100percent.com
atopalm atopiclair Beta-Curve Bio-oil BK MASK burnova cetaphil CG210 COLLA-L creatine activ Dermalis DERMALIS skincare dermatix Dr.Jill DYMABURN Ellgy eucerin EZERRA Gluta Mc Plus HAKUBI C Gel Helionof Himalaya hiruscar LA ROCHE LIPO8 MAXKIN MC PLUS mederma MEDMAKER Meiji Melloderm-HQ Neocell okamoto OMG Physiogel pico Preme SAND-M scagel scaresthetique scargel Smooth-E spectraban TOMEI Vistra vitara berich Zermix กระชับสัดส่วน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน กันแดด ครีมบำรุงผิว เคล็ดลับสุขภาพดี เคล็ดลับหน้าขาวใส ช่วยนอนหลับ ที่ตรวจการตกไข่ ที่ตรวจครรภ์ใช้ง่าย ที่ตรวจยาบ้า บำรุงกระดูกและข้อต่อ บำรุงสุขภาพ ปากแห้ง ผมร่วง ผิวขาว ผิวแพ้ง่าย เพิ่มสมรรถภาพชาย มาส์กหน้าใส รักษาฝ้า รักษาสิว ลดน้ำหนัก ลบรอยแผลเป็น ลิปบาล์ม สมุนไพร กลูต้าไทโอน คอลลาเจน ตังถังเช่า ถังเช่า ถุงยางอนามัย ทับทิม เวย์โปรตีน AHA Aloe vera grape seed Urea อุปกรณ์การแพทย์ FOR MEN FOR WOMEN Review COSMETIC Review Vitamin

วันพุธที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2561

แอสไพริน


แอสไพริน


แอสไพริน (Aspirin) เป็นยาที่ใช้บรรเทาอาการปวด ลดไข้ ลดการอักเสบ เช่น ปวดศีรษะ ปวดฟัน ปวดประจำเดือน เป็นไข้ หากใช้ในปริมาณต่ำจะช่วยต้านเกล็ดเลือด ลดการเกิดลิ่มเลือด อาการเจ็บหน้าอกภาวะหัวใจล้มเหลว หรือโรคหลอดเลือดในสมอง เป็นต้น การใช้แอสไพรินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้งก่อนการใช้ยา



เกี่ยวกับยาแอสไพริน
กลุ่มยา ยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs), ยาต้านเกล็ดเลือด (Antiplatelet Drug)
ประเภทยา ยาตามใบสั่งแพทย์
สรรพคุณ บรรเทาอาการปวด ลดไข้ ลดการอักเสบ
กลุ่มผู้ป่วย เด็กและผู้ใหญ่
รูปแบบของยา ยารับประทานชนิดเม็ด



คำเตือนในการใช้ยาแอสไพริน
ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในขณะใช้ยา เพราะอาจทำให้เกิดเลือดออกในกระเพาะอาหาร
ไม่ควรใช้ยาไอบูโพรเฟน ในผู้ที่ใช้ยาแอสไพรินเพื่อป้องกันภาวะหัวใจล้มเหลวหรือโรคหลอดเลือดในสมอง เพราะประสิทธิภาพในการทำงานของยาจะลดลง หากมีความจำเป็นในการใช้ยา ควรรับประทานยาไอบูโพรเฟนก่อนอย่างน้อย 8 ชั่วโมงหรือ 30 นาทีหลังรับประทานยาแอสไพริน
ไม่ควรใช้ยาในการรักษาอาการหวัด มีไข้ หรืออีสุกอีใส กับผู้ป่วยที่มีอายุต่ำกว่า 16 ปี เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงได้ เช่น กลุ่มอาการไรย์ซินโดรม (Reye's Syndrome) ซึ่งจะทำให้เกิดอาการบวมที่ตับและสมอง อาเจียน อ่อนเพลีย ชัก และหมดสติ
ควรแจ้งแพทย์หรือเภสัชกรให้ทราบก่อนการใช้ยา โดยเฉพาะบุคคลที่อยู่ในกลุ่มต่อไปนี้
ผู้ที่มีประวัติการแพ้ยาแอสไพริน หรือแพ้ยาในกลุ่มเอ็นเสดชนิดอื่น ๆ
ผู้ที่มีภาวะเลือดออกผิดปกติ เช่น โรคฮีโมฟีเลีย (Hemophilia)
ผู้ที่มีประวัติเป็นแผลในกระเพาะอาหารหรือมีเลือดออกในกระเพาะอาหาร
ผู้ที่เป็นโรคหอบหืด หรือภูมิแพ้ที่เป็นเฉพาะฤดู
ผู้ที่เป็นโรคตับ หรือโรคไต
ผู้ที่เป็นโรคเกาต์
ผู้ที่เป็นโรคหัวใจ ความดันในเลือดสูง หรือภาวะหัวใจวาย (Congestive Heart Failure: CHF)
ผู้ที่ตั้งครรภ์โดยเฉพาะในช่วง 3 เดือนสุดท้ายก่อนการคลอด เพราะอาจทำให้มีอาการเลือดออกในมารดาและเป็นอันตรายต่อทารกในระหว่างการคลอด รวมถึงผู้ที่วางแผนจะตั้งครรภ์
ผู้ที่อยู่ในช่วงให้นมบุตร เพราะยาสามารถขับออกผ่านทางนมแม่ไปสู่ทารกได้
ผู้ที่จะเข้ารับการผ่าตัด เพราะแพทย์อาจสั่งให้หยุดใช้ยาสักระยะก่อนเข้ารับการผ่าตัด
ผู้ที่กำลังใช้ยาชนิดอื่น ๆ สมุนไพร หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เพราะการใช้ยาร่วมกันอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดผลข้างเคียงหรือลดประสิทธิภาพการทำงานของยา รวมถึงยาที่มีรายชื่อดังต่อไปนี้
ยารักษาอาการซึมเศร้า เช่น ไซตาโลแพรม (Citalopram) เอสซิตาโลแพรม (Escitalopram) ฟลูออกซิทีน (Fluoxetine) ฟลูวอกซามีน (Fluvoxamine) พาร็อกซิทีน (Paroxetine) เซอร์ทราลีน (Sertraline) ทราโซโดน (Trazodone) ไวลาโซโดน (Vilazodone) เป็นต้น
ยาต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น วาร์ฟาริน (Warfarin) เฮพาริน (Heparin) เป็นต้น
ยาสเตียรอยด์ เช่น เพรดนิโซโลน (Prednisolone) เป็นต้น
ยาลดความดันโลหิต (ACE Inhibitors) เช่น เบนาซีพริล (Benazepril) แคปโตพริล (Captopril) อีนาลาพริล (Enalapril) โฟซิโนพริล (Fosinopril) ลิซิโนพริล (Lisinopril) เป็นต้น
ยารักษาโรคลมชัก เช่น โฟนิโทอิน (Phenytoin) เป็นต้น
ยาที่มีส่วนผสมของแอสไพริน รวมถึงยารักษาอาการหวัด เป็นต้น

ปริมาณการใช้ยาแอสไพริน

แอสไพรินในประเทศไทยมีขนาด 81 มิลลิกรัมและ 325 มิลลิกรัม แพทย์จะเป็นผู้พิจารณาปรับให้เหมาะสมตามอายุ หรืออาการของผู้ป่วยแต่ละราย โดยมีตัวอย่างปริมาณการใช้ยาและรายละเอียดดังนี้
การผ่าตัดขยายหลอดเลือดหัวใจ
ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 325 มิลลิกรัม ก่อนการผ่าตัดเป็นเวลา 2 ชั่วโมง และหลังการผ่าตัดรับประทานยาขนาด 160-325 มิลลิกรัมต่อวัน
การบรรเทาอาการปวดและลดไข้
ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 325-650 มิลลิกรัม ทุก 4-6 ชั่วโมง สูงสุดไม่เกิน 4 กรัมต่อวัน
การป้องกันโรคกล้ามเนื้อหัวใจตาย
ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 75-325 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง และควรใช้แอสไพรินในปริมาณต่ำสำหรับผู้ป่วยที่กำลังใช้ยาลดความดันโลหิต (ACE Inhibitors)
ข้ออักเสบรูมาตอยด์ในเด็ก (Juvenile Rheumatoid Arthritis)
เด็กที่มีอายุ 12 ปีและน้ำหนักมากกว่า 25 กิโลกรัม ในครั้งแรกรับประทานยาขนาด 2.4-3.6 กรัมต่อวัน และต่อมารับประทานยาขนาด 3.6-5.4 มิลลิกรัมต่อวัน
เด็กที่มีอายุ 2-11 ปี มีน้ำหนักน้อยกว่าหรือเท่ากับ 25 กิโลกรัม ในครั้งแรกรับประทานยาขนาด 60-90 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน และต่อมารับประทานยาขนาด 80-100 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หากมีอาการกำเริบรุนแรงสามารถใช้ยาได้สูงสุด 130 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน และไม่เกิน 5.4 มิลลิกรัมต่อวัน
โรคคาวาซากิ
ในครั้งแรกรับประทานยาหรือใช้ยาชนิดเหน็บทวารขนาด 80-100 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน ทุก 4-6 ชั่วโมง เป็นเวลา 14 วัน จากนั้นรับประทานขนาด 3-5 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมต่อวัน วันละครั้ง ต่อเนื่องนาน 6- 8 สัปดาห์ ขึ้นกับความผิดปกติของเลือด
โรคข้อสันหลังอักเสบชนิดแอนไคโลสซิ่ง โรคข้อเสื่อม โรคข้อรูมาตอยด์ โรคเอสแอลอีหรือโรคแพ้ภูมิตัวเองที่เกี่ยวข้องกับข้ออักเสบและเยื่อหุ้มปอดอักเสบ
ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 3 กรัมต่อวัน
ภาวะสมองขาดเลือด
ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 50-325 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
ผู้ใหญ่ รับประทานยาขนาด 75-325 มิลลิกรัม วันละ 1 ครั้ง

การใช้ยาแอสไพริน
ควรอ่านฉลากยาและทำตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด ไม่ควรใช้ยาในปริมาณที่มากหรือน้อยเกินไป และไม่ควรใช้ยานี้เกินกว่าระยะเวลาที่แพทย์สั่ง
ควรกลืนยาทั้งเม็ด ไม่เคี้ยว ไม่ทำให้แตก และไม่ควรรับประทานยา 2 ชั่วโมงก่อนหรือ 1 ชั่วโมงหลังการดื่มแอลกอฮอล์
แอสไพรินเป็นยาที่รับประทานหลังอาหาร หากลืมรับประทานยาตามเวลาที่แพทย์สั่ง เมื่อนึกขึ้นได้สามารถรับประทานได้ทันที หากลืมรับประทานยาใกล้กับมื้ออาหารถัดไป ให้รับประทานยาในเวลาและขนาดตามปกติ ไม่ต้องเพิ่มขนาดยาเพื่อทดแทนในมื้อที่ขาดหายไป
ควรเก็บยาไว้ที่อุณหภูมิห้อง ไม่ควรเก็บในที่ที่มีความร้อน ความชื้น ไม่ควรสัมผัสแสงโดยตรง รวมถึงปิดฝาให้สนิททุกครั้งหลังใช้ยา และควรเก็บให้ไกลจากมือเด็ก
ไม่ควรรับประทานยาที่หมดอายุ หรือเมื่อได้กลิ่นคล้ายน้ำส้มสายชูเมื่อเปิดกระปุกยา เพราะยาอาจเสื่อมประสิทธิภาพ

ผลข้างเคียงจากการใช้ยาแอสไพริน

ยาแอสไพรินอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่พบได้ทั่วไปในขณะใช้ยา เช่น ปวดศีรษะ ง่วงซึม ระคายเคืองกระเพาะอาหาร เป็นต้น ควรหยุดใช้ยา และรีบไปพบแพทย์โดยด่วน และอาจพบอาการอื่น ๆ ร่วมด้วยได้ดังนี้
อาการแพ้ยา เช่น หายใจลำบาก ผื่นคัน มีอาการบวมที่ใบหน้า ริมฝีปาก ลิ้น หรือลำคอ
หูอื้อ รู้สึกสับสน หายใจเร็วผิดปกติ ชัก
คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง
อุจจาระเป็นเลือดหรือมีสีดำ ไอหรืออาเจียนเป็นเลือด
มีไข้สูงนานติดต่อกันเกิน 3 วัน
อาการปวดหรือบวมนานติดต่อกันเกิน 10 วัน

https://www.pobpad.com

สนใจสินค้านี้ สั่งซื้อราคาถูกพิเศษที่>>http://www.vitamin24hr.com
ถูกที่สุดทั่วไทย สินค้าบริษัท
แอดไลน์ที่>> http://line.me/ti/p/%40vitamin24hr
หรือ ไลน์ไอดี @vitamin24hr
****
วันนี้กดไลค์เพจเราและแชร์แบบสาธารณะ เพื่อลุ้นรับขนาดทดลอง จัดส่งถึงบ้าน ประกาศผลทุกสิ้นเดือนจ้า ^__^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

www.True100percent.com โทร 092-6161666, 02-0027539 : LINE: @mox9486f

เวชสำอางค์ ให้คุณช้อปจนจุใจ