http://www.true100percent.com/

http://www.true100percent.com/
สั่งซื้อสินค้าอออนไลน์ ได้ง่ายๆ คลิกเลย^^ www.true100percent.com
atopalm atopiclair Beta-Curve Bio-oil BK MASK burnova cetaphil CG210 COLLA-L creatine activ Dermalis DERMALIS skincare dermatix Dr.Jill DYMABURN Ellgy eucerin EZERRA Gluta Mc Plus HAKUBI C Gel Helionof Himalaya hiruscar LA ROCHE LIPO8 MAXKIN MC PLUS mederma MEDMAKER Meiji Melloderm-HQ Neocell okamoto OMG Physiogel pico Preme SAND-M scagel scaresthetique scargel Smooth-E spectraban TOMEI Vistra vitara berich Zermix กระชับสัดส่วน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน กันแดด ครีมบำรุงผิว เคล็ดลับสุขภาพดี เคล็ดลับหน้าขาวใส ช่วยนอนหลับ ที่ตรวจการตกไข่ ที่ตรวจครรภ์ใช้ง่าย ที่ตรวจยาบ้า บำรุงกระดูกและข้อต่อ บำรุงสุขภาพ ปากแห้ง ผมร่วง ผิวขาว ผิวแพ้ง่าย เพิ่มสมรรถภาพชาย มาส์กหน้าใส รักษาฝ้า รักษาสิว ลดน้ำหนัก ลบรอยแผลเป็น ลิปบาล์ม สมุนไพร กลูต้าไทโอน คอลลาเจน ตังถังเช่า ถังเช่า ถุงยางอนามัย ทับทิม เวย์โปรตีน AHA Aloe vera grape seed Urea อุปกรณ์การแพทย์ FOR MEN FOR WOMEN Review COSMETIC Review Vitamin

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ความหมาย ตาแพ้แสง


ความหมาย ตาแพ้แสง


ตาแพ้แสง คือ อาการรู้สึกไม่สบายตา หรือระคายเคืองดวงตาเมื่อต้องสัมผัสแสงต่าง ๆ เช่น แสงแดด แสงจากหลอดไฟ หรือแสงจากเปลวไฟ เป็นต้น โดยทั่วไปตาแพ้แสงเป็นอาการที่ไม่รุนแรง ผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการได้โดยสวมแว่นกันแดด แต่หากตาแพ้แสงอย่างรุนแรงก็อาจต้องไปพบแพทย์ เพื่อรับการรักษาอย่างเหมาะสม เพราะแสงอาจทำให้รู้สึกเจ็บปวดดวงตาอย่างมาก



อาการของตาแพ้แสง

ตาแพ้แสงสามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย และอาจเกิดขึ้นอย่างกะทันหันโดยไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ มาก่อน ซึ่งผู้ป่วยแต่ละรายอาจมีอาการแตกต่างกันไป และบางรายอาจมีอาการตาแพ้แสงร่วมกับอาการอื่น ๆ ด้วย

โดยอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยที่มีตาแพ้แสง ได้แก่
รู้สึกไม่สบายตา ระคายเคืองดวงตา
ต้องหรี่ตาหรือหลับตาเมื่อสัมผัสแสง
แสบตา
ตาแดง
มีน้ำตาไหลออกมามาก
มีสารคัดหลั่งสีเขียวหรือสีเหลืองไหลออกจากดวงตา

ทั้งนี้ ระดับความรุนแรงของตาแพ้แสง และอาการที่ปรากฏร่วมกับตาแพ้แสงนั้นไม่มีลักษณะเฉพาะเจาะจง โดยอาจแตกต่างกันไปตามโรค ภาวะ หรืออาการเจ็บป่วยต่าง ๆ ที่เป็นสาเหตุของตาแพ้แสง

สาเหตุของตาแพ้แสง

อาการตาแพ้แสงเป็นเพียง 1 ในอาการของภาวะเจ็บป่วยหรือโรคต่าง ๆ เท่านั้น ซึ่งอาจเกี่ยวข้องกับเซลล์ในดวงตาที่ตรวจจับแสง และเส้นประสาทตาที่ส่งต่อไปยังสมอง โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากโรคไมเกรน ซึ่งผู้ป่วยมักมีอาการตาแพ้แสงร่วมกับอาการปวดหัว และในบางครั้งก็อาจเกี่ยวข้องกับอาการปวดหัวแบบเป็นชุด ๆ หรือที่เรียกว่า ปวดหัวคลัสเตอร์ ด้วยเช่นกัน

ส่วนอาการเจ็บป่วยหรือภาวะอื่น ๆ ที่อาจทำให้ตาแพ้แสงได้ มีดังนี้

โรคหรืออาการเจ็บป่วยทางสมอง เช่น
การได้รับบาดเจ็บที่สมองอย่างรุนแรง
เนื้องอกในต่อมใต้สมอง
ก้านสมองเสื่อม
เยื่อหุ้มสมองอักเสบ

โรคหรืออาการเจ็บป่วยที่เกี่ยวกับดวงตา เช่น
ตาแห้ง
ม่านตา กระจกตา เยื่อตา หรือตาขาวอักเสบ
กระจกตาเสียหาย หรือกระจกตาถลอก

นอกจากนี้ อาการตาแพ้แสงอาจเกิดได้จากการรักษาปัญหาสายตาด้วยเลสิก ปัญหาสุขภาพจิต หรือแม้แต่การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาเสพติดบางอย่าง ยาฟูโรซีไมด์ ยาควินิน ยาด็อกซีไซคลิน ยาเตตราไซคลีน หรือยาหยอดขยายม่านตา เป็นต้น

การวินิจฉัยตาแพ้แสง

ในเบื้องต้น แพทย์อาจถามถึงอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น การมีสารคัดหลั่งออกจากดวงตา มีไข้ หรืออาการเจ็บป่วยที่อาจเป็นสาเหตุของตาแพ้แสง เป็นต้น จากนั้นอาจมีการทดสอบอื่น ๆ เพิ่มเติมตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น
การวัดสายตา เพื่อตรวจการมองเห็นของดวงตาทั้ง 2 ข้าง
การตรวจฟิล์มน้ำตา เพื่อตรวจปริมาณน้ำตาว่าตาแห้งเกินไปหรือไม่
การตรวจตาด้วยเครื่อง Slit-Lamp หรือกล้องจุลทรรศน์สำหรับตรวจตาชนิดลำแสงแคบ โดยตรวจการอักเสบหรือการบาดเจ็บในตา ซึ่งแพทย์อาจหยดสีย้อมชนิดพิเศษลงบนดวงตา เพื่อดูความเสียหายจุดอื่น ๆ บนผิวตาด้วย
การทำเอ็มอาร์ไอ (MRI Scan) หรือการสร้างภาพด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยสร้างรายละเอียดภาพของดวงตาขึ้นมาเพื่อประกอบการวินิจฉัย

การรักษาตาแพ้แสง

โดยทั่วไป ตาแพ้แสงที่ไม่รุนแรงมากอาจบรรเทาอาการได้ด้วยการดูแลตนเองในเบื้องต้น โดยปิดไฟหรือปิดม่านเพื่อทำให้ห้องหรืออาคารที่อยู่มืดลง หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดโดยตรงหรือแสงไฟในอาคารที่สว่างจ้าเกินไป ถ้าดวงตาต้องโดนแสงก็อาจหลับตาหรือใส่แว่นตากันแดด

อย่างไรก็ตาม หากอาการตาแพ้แสงรุนแรงมากขึ้นจนทำให้รู้สึกเจ็บปวดดวงตาอย่างมากเมื่อเจอแสงในรูปแบบต่าง ๆ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม โดยวิธีที่อาจใช้รักษาอาการตาแพ้แสง มีดังนี้
น้ำตาเทียม หยอดน้ำตาเทียมเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดวงตา และรักษาอาการตาแห้งที่ไม่รุนแรง
การใช้ยา ยาที่ใช้รักษามีหลายชนิด ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ตาแพ้แสงด้วย เช่น ใช้ยาปฏิชีวนะ ยาต้านไวรัส หรือยาต้านเชื้อรา เมื่อเกิดการติดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส หรือเชื้อรา เป็นต้น โดยปกติแพทย์จะให้ใช้ยาหยอดตาก่อน แต่หากอาการรุนแรงก็อาจให้ใช้ยาชนิดรับประทาน และผู้ป่วยอาจต้องใช้ยาสเตียรอยด์เพิ่มตามดุลยพินิจของแพทย์ในกรณีที่เกิดอาการบวมร่วมด้วย

การป้องกันตาแพ้แสง

ตาแพ้แสงเกิดได้จากหลายสาเหตุ โดยบางสาเหตุอาจป้องกันได้ยาก เช่น โรคไมเกรน เป็นต้น อย่างไรก็ตาม อาการตาแพ้แสงจากบางสาเหตุสามารถลดความเสี่ยงได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
หลับตาลงสักชั่วขณะหนึ่ง
รักษาโรคหรือภาวะที่เป็นสาเหตุของตาแพ้แสงตั้งแต่เริ่มต้น เช่น อาการตาแห้ง หรือเยื่อตาอักเสบ เป็นต้น
สวมหมวกปีกกว้าง หรือแม้จะอยู่ใต้ร่มเงาก็ควรใส่แว่นกันแดดที่มีเลนส์โพลาไรซ์ (Polarized) ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยกรองแสงและลดแสงจ้าเมื่ออยู่ในที่แจ้ง
หรี่ไฟ ปิดไฟในอาคาร หรือปิดม่านเมื่อมีแสงจากด้านนอกส่องเข้ามามากเกินไป
รับประทานวิตามินและอาหารที่มีสรรพคุณต้านอนุมูลอิสระ โดยเฉพาะอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ
ไม่ควรสวมคอนแทคเลนส์ เพราะอาจเป็นสาเหตุทำให้รู้สึกไม่สบายตาได้
หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางบริเวณดวงตา เพราะเครื่องสำอางอาจทำให้ระคายเคืองดวงตาได้


https://www.pobpad.com

สนใจสินค้านี้ สั่งซื้อราคาถูกพิเศษที่>>http://www.vitamin24hr.com
ถูกที่สุดทั่วไทย สินค้าบริษัท
แอดไลน์ที่>> http://line.me/ti/p/%40vitamin24hr
หรือ ไลน์ไอดี @vitamin24hr
****
วันนี้กดไลค์เพจเราและแชร์แบบสาธารณะ เพื่อลุ้นรับขนาดทดลอง จัดส่งถึงบ้าน ประกาศผลทุกสิ้นเดือนจ้า ^__^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

www.True100percent.com โทร 092-6161666, 02-0027539 : LINE: @mox9486f

เวชสำอางค์ ให้คุณช้อปจนจุใจ