http://www.true100percent.com/

http://www.true100percent.com/
สั่งซื้อสินค้าอออนไลน์ ได้ง่ายๆ คลิกเลย^^ www.true100percent.com
atopalm atopiclair Beta-Curve Bio-oil BK MASK burnova cetaphil CG210 COLLA-L creatine activ Dermalis DERMALIS skincare dermatix Dr.Jill DYMABURN Ellgy eucerin EZERRA Gluta Mc Plus HAKUBI C Gel Helionof Himalaya hiruscar LA ROCHE LIPO8 MAXKIN MC PLUS mederma MEDMAKER Meiji Melloderm-HQ Neocell okamoto OMG Physiogel pico Preme SAND-M scagel scaresthetique scargel Smooth-E spectraban TOMEI Vistra vitara berich Zermix กระชับสัดส่วน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน กันแดด ครีมบำรุงผิว เคล็ดลับสุขภาพดี เคล็ดลับหน้าขาวใส ช่วยนอนหลับ ที่ตรวจการตกไข่ ที่ตรวจครรภ์ใช้ง่าย ที่ตรวจยาบ้า บำรุงกระดูกและข้อต่อ บำรุงสุขภาพ ปากแห้ง ผมร่วง ผิวขาว ผิวแพ้ง่าย เพิ่มสมรรถภาพชาย มาส์กหน้าใส รักษาฝ้า รักษาสิว ลดน้ำหนัก ลบรอยแผลเป็น ลิปบาล์ม สมุนไพร กลูต้าไทโอน คอลลาเจน ตังถังเช่า ถังเช่า ถุงยางอนามัย ทับทิม เวย์โปรตีน AHA Aloe vera grape seed Urea อุปกรณ์การแพทย์ FOR MEN FOR WOMEN Review COSMETIC Review Vitamin

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ความหมาย กระดูกคอเสื่อม


ความหมาย กระดูกคอเสื่อม


กระดูกคอเสื่อม (Cervical Spondylosis) คือ การเสื่อมของกระดูกสันหลังบริเวณคอที่มักพบในผู้สูงอายุ ส่วนใหญ่เกิดขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือน แต่จะเริ่มมีอาการรุนแรงตามอายุที่เพิ่มมากขึ้น จนอาจส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคนี้ได้โดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่จะไม่สามารถรักษาให้หายสนิท เนื่องจากเป็นกระบวนการเสื่อมสภาพของร่างกายตามธรรมชาติ



อาการของกระดูกคอเสื่อม

โรคกระดูกคอเสื่อมมักไม่มีอาการใด ๆ แสดงให้เห็น แต่ในกรณีที่มีอาการ ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดบริเวณคอร้าวลงไปถึงไหล่หรือแขนได้ รวมทั้งมีอาการคอแข็ง ทำให้ขยับหรือเคลื่อนไหวคอได้ไม่สะดวกเหมือนปกติ นอกจากนี้ หากไขสันหลังหรือรากประสาทถูกกดทับ อาจทำให้เกิดอาการอื่น ๆ ตามมาด้วย เช่น
รู้สึกอ่อนแรงและเป็นเหน็บชาที่แขน ขา มือ หรือเท้า
การประสานงานของร่างกายผิดปกติ ทำให้เดินลำบาก
ไม่สามารถควบคุมระบบขับถ่ายหรือระบบปัสสาวะได้

ทั้งนี้ หากมีอาการของภาวะกระดูกคอเสื่อมที่รุนแรงดังต่อไปนี้ ผู้ป่วยควรไปพบแพทย์ เพราะหากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้กระดูกสันหลังเสียหายอย่างถาวร
อาการปวดรุนแรงขึ้น
การควบคุมหรือประสานงานกันของร่างกายผิดปกติ เช่น ติดกระดุมไม่ได้ เดินลำบาก เป็นต้น
รู้สึกเจ็บเหมือนถูกเข็มตำที่แขน
มีอาการอ่อนแรงหรือรู้สึกหนักที่ขาและแขน
มีปัญหาในการกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระ

สาเหตุของกระดูกคอเสื่อม

ภาวะกระดูกคอเสื่อมเกิดจากความเสื่อมสภาพของร่างกายที่เป็นไปตามวัย โดยมักพบในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป แต่ก็อาจพบได้ในคนวัยอื่นที่มีปัจจัยเสี่ยง ดังต่อไปนี้
เคยได้รับบาดเจ็บที่คอ
ทำงานที่ต้องเคลื่อนไหวคอบ่อย ๆ หรือเกิดแรงกดบริเวณคอมากเกินไป
มีการเกร็งคออยู่ในท่าทางที่ผิดจากปกติเป็นเวลานาน หรือเคลื่อนไหวคอในท่าเดิมซ้ำ ๆ ตลอดทั้งวัน
คนในครอบครัวมีภาวะกระดูกคอเสื่อม
สูบบุหรี่
ไม่ออกกำลังกาย
มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน

การวินิจฉัยกระดูกคอเสื่อม

หากสงสัยว่าตนเองอาจมีภาวะกระดูกคอเสื่อม หรือมีอาการผิดปกติดังข้างต้น ผู้ป่วยควรรีบไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจอย่างละเอียด โดยในเบื้องต้นแพทย์จะซักอาการและสอบถามว่าเคยได้รับอุบัติเหตุใด ๆ เมื่อไม่นานมานี้หรือไม่ จากนั้นจึงตรวจการเคลื่อนไหวของคอ ตรวจปฏิกิริยาตอบสนองและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ เพื่อดูว่ามีแรงกดทับที่เส้นประสาทบริเวณสันหลังหรือไขสันหลังหรือไม่ รวมทั้งตรวจดูว่าความผิดปกติดังกล่าวส่งผลต่อการเดินหรือไม่

นอกจากนี้ แพทย์อาจให้ผู้ป่วยเข้ารับการตรวจด้วยวิธีอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อดูความเสียหายของกระดูกและเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลัง โดยวิธีที่แพทย์มักใช้ตรวจ ได้แก่
การถ่ายภาพด้วยรังสี เป็นวิธีที่ช่วยให้มองเห็นความผิดปกติของกระดูกและเส้นประสาทบริเวณคอ เช่น การเอกซเรย์ การทำ MRI Scan การทำ CT Scan เป็นต้น และอาจฉีดสารย้อมสีเข้าไปในโพรงกระดูกไขสันหลังก่อนการเอกซเรย์ เพื่อช่วยให้เห็นลักษณะของกระดูก โพรงบรรจุไขสันหลัง หมอนรองกระดูก และเส้นประสาทบริเวณคอได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น
การตรวจคลื่นไฟฟ้ากล้ามเนื้อ เป็นการตรวจการทำงานของเส้นประสาทที่ส่งสัญญาณไปยังกล้ามเนื้อ เพื่อดูว่ามีความผิดปกติที่เกิดจากกระดูกคอเสื่อมหรือไม่
การตรวจความเร็วของการนำสัญญาณประสาท แพทย์จะใช้ตัวนำไฟฟ้าวางไว้บนผิวหนังบริเวณเหนือเส้นประสาท จากนั้นจึงปล่อยกระแสไฟฟ้าเบา ๆ เพื่อดูว่าการส่งสัญญาณประสาทจากไขสันหลังไปยังกล้ามเนื้อเป็นปกติดีหรือไม่

เมื่อได้ผลการตรวจเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะนำมาประกอบการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยต่อไป

การรักษากระดูกคอเสื่อม

การรักษาภาวะนี้ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ โดยในเบื้องต้นแพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด รวมทั้งให้พยายามเคลื่อนไหวร่างกายและใช้ชีวิตตามปกติ แต่หากมีอาการที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจรักษาโดยใช้วิธีอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้
การใช้ยา แพทย์อาจให้ผู้ป่วยใช้ยาแก้อักเสบชนิดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เช่น ยาไอบูโพรเฟน ยานาพรอกเซน เป็นต้น รวมทั้งอาจให้ใช้ยาคลายกล้ามเนื้อร่วมด้วย ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้
การทำกายภาพบำบัด นักกายภาพบำบัดจะสอนวิธีออกกำลังกายที่ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อคอและไหล่ให้แก่ผู้ป่วย เพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด
การประคบเย็นหรือประคบร้อน ทำได้โดยใช้แผ่นประคบเย็นหรือร้อนวางบริเวณคอเพื่อลดอาการเจ็บปวด แต่ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หรือนักกายภาพบำบัดเสมอ
การใส่เฝือกคอ แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยใส่เฝือกอ่อนบริเวณคอเป็นระยะเวลาสั้น ๆ เพื่อบรรเทาอาการ แต่หากใส่นานเกินไปอาจมีผลข้างเคียงทำให้คอไม่แข็งแรงได้
การฉีดยา แพทย์จะฉีดสารสเตียรอยด์และยาแก้ปวดเข้าไปยังข้อต่อคอที่มีอาการปวดหรือบริเวณใกล้ ๆ กับกระดูกสันหลัง
การผ่าตัด โดยทั่วไป ผู้ป่วยมักไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัด แต่ในกรณีที่มีแรงกดทับจากภาวะกระดูกคอเสื่อมมากเกินไป หรือแรงกดดังกล่าวส่งผลกระทบต่อเส้นประสาท แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดเพื่อนำกระดูกที่กดทับอยู่ออก ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดและอาการอื่น ๆ ที่เกิดจากภาวะกระดูกคอเสื่อมได้

ภาวะแทรกซ้อนของกระดูกคอเสื่อม

กระดูกคอเสื่อมอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยในกรณีที่เกิดแรงกดทับที่กระดูกสันหลังอย่างรุนแรง ผู้ป่วยอาจมีอาการชาหรืออ่อนแรงบริเวณแขน มือ ขา หรือเท้า ปฏิกิริยาตอบสนองของร่างกายผิดปกติ กล้ามเนื้อหดเกร็ง ร่างกายทำงานไม่ประสานกัน มีปัญหาในการเดิน และกลั้นปัสสาวะหรืออุจจาระไม่อยู่

นอกจากนี้ ภาวะกระดูกคอเสื่อมยังอาจก่อให้เกิดโรครากประสาทคอ ซึ่งเกิดจากกระดูกสันหลังหรือเส้นประสาทบริเวณคอถูกกดทับ ทำให้เกิดอาการปวดที่แขนข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้ง 2 ข้าง และหากมีอาการรุนแรงขึ้นก็อาจทำให้เส้นประสาทเสียหายอย่างถาวรได้ในที่สุด

การป้องกันกระดูกคอเสื่อม

กระดูกคอเสื่อมไม่สามารถป้องกันได้ เนื่องจากเป็นความเสื่อมสภาพทางร่างกายที่มักเกิดขึ้นตามอายุที่มากขึ้น ทำได้เพียงลดความเสี่ยงด้วยวิธี ดังต่อไปนี้
คอยระมัดระวังให้คออยู่ในท่าทางที่เหมาะสมขณะอยู่ในอิริยาบทต่าง ๆ ทั้งการยืน การนั่ง หรือการเดิน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บที่คอ
ออกกำลังกายและทำกิจกรรมเพื่อเคลื่อนไหวร่างกายอย่างสม่ำเสมอ
ระมัดระวังในการออกกำลังกายหรือการเล่นกีฬาที่มีความเสี่ยง หรือสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันตัวเพื่อหลีกเลี่ยงการได้รับบาดเจ็บบริเวณคอเสมอ


https://www.pobpad.com

สนใจสินค้านี้ สั่งซื้อราคาถูกพิเศษที่>>http://www.vitamin24hr.com
ถูกที่สุดทั่วไทย สินค้าบริษัท
แอดไลน์ที่>> http://line.me/ti/p/%40vitamin24hr
หรือ ไลน์ไอดี @vitamin24hr
****
วันนี้กดไลค์เพจเราและแชร์แบบสาธารณะ เพื่อลุ้นรับขนาดทดลอง จัดส่งถึงบ้าน ประกาศผลทุกสิ้นเดือนจ้า ^__^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

www.True100percent.com โทร 092-6161666, 02-0027539 : LINE: @mox9486f

เวชสำอางค์ ให้คุณช้อปจนจุใจ