http://www.true100percent.com/

http://www.true100percent.com/
สั่งซื้อสินค้าอออนไลน์ ได้ง่ายๆ คลิกเลย^^ www.true100percent.com
atopalm atopiclair Beta-Curve Bio-oil BK MASK burnova cetaphil CG210 COLLA-L creatine activ Dermalis DERMALIS skincare dermatix Dr.Jill DYMABURN Ellgy eucerin EZERRA Gluta Mc Plus HAKUBI C Gel Helionof Himalaya hiruscar LA ROCHE LIPO8 MAXKIN MC PLUS mederma MEDMAKER Meiji Melloderm-HQ Neocell okamoto OMG Physiogel pico Preme SAND-M scagel scaresthetique scargel Smooth-E spectraban TOMEI Vistra vitara berich Zermix กระชับสัดส่วน กระตุ้นภูมิคุ้มกัน กันแดด ครีมบำรุงผิว เคล็ดลับสุขภาพดี เคล็ดลับหน้าขาวใส ช่วยนอนหลับ ที่ตรวจการตกไข่ ที่ตรวจครรภ์ใช้ง่าย ที่ตรวจยาบ้า บำรุงกระดูกและข้อต่อ บำรุงสุขภาพ ปากแห้ง ผมร่วง ผิวขาว ผิวแพ้ง่าย เพิ่มสมรรถภาพชาย มาส์กหน้าใส รักษาฝ้า รักษาสิว ลดน้ำหนัก ลบรอยแผลเป็น ลิปบาล์ม สมุนไพร กลูต้าไทโอน คอลลาเจน ตังถังเช่า ถังเช่า ถุงยางอนามัย ทับทิม เวย์โปรตีน AHA Aloe vera grape seed Urea อุปกรณ์การแพทย์ FOR MEN FOR WOMEN Review COSMETIC Review Vitamin

วันพฤหัสบดีที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2561

ความหมาย Ventricular Fibrillation


ความหมาย Ventricular Fibrillation


Ventricular Fibrillation (ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัว) คือ ภาวะความผิดปกติของหัวใจส่งผลให้จังหวะการเต้นของหัวใจเปลี่ยนไป โดยหัวใจจะมีอัตราการเต้นค่อนข้างเร็วและไม่เป็นจังหวะ ซึ่งภาวะนี้ถือว่าอันตรายและต้องได้รับการรักษาแบบฉุกเฉิน เนื่องจากหากหัวใจเต้นเร็วมากเกินไปอาจทำให้เสียชีวิตอย่างเฉียบพลันได้



อาการ Ventricular Fibrillation

อาการเกิดจากการที่หัวใจ 2 ห้องล่างไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้เป็นปกติ ทำให้เลือดไม่ไหลเวียนไปเลี้ยงร่างกายได้อย่างเพียงพอ จนทำให้เป็นลม หรือหมดสติได้ แต่ก่อนหน้าที่อาการเหล่านี้จะปรากฏ ผู้ป่วยมักมีอาการบางแสดงนำมาก่อน อันเป็นสัญญาณของ Ventricular Fibrillation เช่น
เจ็บหน้าอก
วิงเวียนศีรษะ
คลื่นไส้
หัวใจเต้นเร็ว
หายใจถี่ดังนั้น หากผู้ป่วยมีอาการข้างต้นควรรีบโทรแจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะหากล่าช้าอาจทำให้เสียชีวิตได้



สาเหตุของ Ventricular Fibrillation

Ventricular Fibrillation เกิดจากการกระตุกหรือการสั่นของใยกล้ามเนื้อหัวใจในหัวใจห้องล่าง ทำให้หัวใจไม่สามารถสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ ได้ สาเหตุที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจเกิดการสั่นไหวหรือกระตุกซึ่งพบได้บ่อยคือ
ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด เป็นสาเหตุที่พบได้บ่อย เพราะเมื่อหัวใจเกิดภาวะขาดเลือด จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตาย และหัวใจเต้นผิดปกติ
อุบัติเหตุจากไฟฟ้าช็อต หรืออาการบาดเจ็บโดยตรงที่หัวใจ
ความพิการแต่กำเนิด ซึ่งส่งผลให้หัวใจทำงานผิดปกติ
โรคที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อหัวใจ ส่งผลให้กล้ามเนื้อหัวใจอ่อนแอ หย่อนยาน หรือหนาขึ้นจนส่งผลต่อการบีบคลายของหัวใจ
การผ่าตัดหัวใจ ที่ทำให้กล้ามเนื้อหัวใจทำงานเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
การหยุดเต้นของหัวใจเฉียบพลัน อันเกิดจากการถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงบริเวณหน้าอก
การใช้ยาบางชนิด ที่อาจทำให้จังหวะการเต้นของหัวใจผิดปกติ
ภาวะโพแทสเซียมในเลือดสูงหรือต่ำเกินไป อันส่งผลต่อการทำงานของหัวใจโดยตรงทั้งนี้ ผู้ที่มีภาวะดังกล่าวอาจไม่เคยมีอาการของโรคหัวใจมาก่อน แต่อาจเป็นผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจชนิดอื่น ๆ อันได้แก่
การสูบบุหรี่
ภาวะความดันโลหิตสูง
โรคเบาหวาน
อยู่ในพื้นที่หรือต้องทำงานที่เสี่ยงต่อการถูกไฟฟ้าช็อตการวินิจฉัย Ventricular Fibrillation



ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัวนั้นเป็นอาการที่ต้องได้รับการรักษาแบบฉุกเฉิน ดังนั้น การวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยต้องรีบทำอย่างเร่งด่วนเช่นกัน โดยเบื้องต้นผู้ป่วยไม่สามารถระบุอาการได้เอง แต่จะตรวจพบได้ด้วยการวินิจฉัยเบื้องต้นดังวิธีต่อไปนี้
การวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ช่วยให้แพทย์ทราบว่าหัวใจของผู้ป่วยมีจังหวะการเต้นเป็นปกติหรือไม่
วัดชีพจร หากผู้ป่วยมีภาวะดังกล่าวจะไม่สามารถวัดชีพจรได้ทั้งนี้ หากแพทย์พบว่าผู้ป่วยมีอาการของ Ventricular Fibrillation แพทย์จะสั่งตรวจเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่ตรงจุดมากขึ้น โดยวิธีที่ใช้ได้แก่
การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ เป็นวิธีที่จะช่วยให้แพทย์เห็นความผิดปกติของกล้ามเนื้อหัวใจ และวินิจฉัยได้ว่าเกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือไม่
การตรวจเลือด ในกรณีฉุกเฉินแพทย์จะตรวจเลือดเพื่อดูการรั่วไหลของเอ็นไซม์ที่มาจากหัวใจ ซึ่งเป็นอาการที่เกิดจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
การเอกซเรย์ทรวงอก เป็นวิธีการตรวจวินิจฉัยที่ทำให้แพทย์เห็นว่าผู้ป่วยมีภาวะหัวใจโต หรือหัวใจและหลอดเลือดมีความผิดปกติหรือไม่
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นสะท้อนความถี่สูง (Echocardiogram) คือการตรวจวินิจฉัยโดยใช้คลื่นเสียงสะท้อนเพื่อจำลองภาพของหัวใจ ทำให้แพทย์เห็นการทำงานของหัวใจได้ชัดเจนขึ้น
การตรวจหัวใจด้วยคลื่นทีเวฟ (T-wave Alternans) วิธีนี้จะค่อนข้างละเอียดมากขึ้น เพราะจะช่วยให้แพทย์เห็นความเปลี่ยนแปลงของหัวใจได้ชัดเจนขึ้น
การสอดสายสวนหัวใจ (Coronary Catheterization) หากแพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยอาจมีการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติจากภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบ แพทย์จะสอดสายสวนและฉีดสารทึบแสงเพื่อเอกซเรย์ดูการทำงานของหลอดเลือดหัวใจ
การเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจแบบซีทีสแกน (CT Scan) หรือเอ็มอาร์ไอ (MRI) จะช่วยใช้แพทย์เห็นภาพของหัวใจ และการทำงานของหัวใจได้ชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังสามารถระบุภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบตันได้อีกด้วย
การตรวจทางสรีรวิทยาไฟฟ้าหัวใจ (Electrophysiology Study) เป็นการตรวจเพื่อดูการทำงานของหัวใจ และคลื่นหัวใจไฟฟ้าโดยแพทย์จะสวนหัวใจเพื่อเก็บข้อมูลคลื่นหัวใจได้อย่างละเอียดยิ่งขึ้น
การบันทึกคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (Holter Monitoring) แพทย์จะติดเครื่องบันทึกอัตราการเต้นของหัวใจบริเวณหน้าอก เพื่อเก็บข้อมูลในระยะสั้น ๆ
การทดสอบสมรรถภาพของหัวใจ (Stress Test) เป็นวิธีการวินิจฉัยโดยการติดตามอัตราการเต้นของหัวใจรวมถึงรูปแบบของคลื่นไฟฟ้าหัวใจในขณะที่มีการออกแรง เพื่อช่วยให้การวินิจฉัยภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบสามารถทำได้แม่นยำมากขึ้นการรักษา Ventricular Fibrillation



การรักษาในเบื้องต้นมักเป็นกรณีฉุกเฉิน โดยมีจุดประสงค์หลักเพื่อช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด เพราะส่งผลต่อการสูบฉีดเลือดของหัวใจ หากล่าช้าจะยิ่งทำให้อวัยวะอื่น ๆ ในร่างกายได้รับผลกระทบไปด้วย โดยวิธีที่แพทย์ใช้ในกรณีนี้ ได้แก่
การทำซีพีอาร์ เป็นการกระตุ้นให้หัวใจกลับมาเต้นได้ตามปกติ วิธีนี้บุคคลทั่วไปสามารถทำได้ แต่ต้องมีความรู้ความเข้าใจเป็นอย่างดี มิฉะนั้นอาจทำให้ยิ่งอาการหนักมากขึ้นได้
การกระตุกหัวใจ (Defibrillation) แพทย์จะใช้เครื่องกระตุกหัวใจส่งคลื่นไฟฟ้าไปเพื่อปรับจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่หัวใจเต้นผิดจังหวะแบบรุนแรงเท่านั้น การรักษานี้จะช่วยให้หัวใจกลับมาทำงานเป็นปกติได้นอกจากนี้ เมื่อผู้ป่วยฟื้นตัวได้แล้ว แพทย์อาจแนะนำให้ผู้ป่วยรับการรักษาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันอาการกำเริบ หรืออาการรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
การใช้ยา ยาที่แพทย์ใช้จะเป็นยาช่วยป้องกันหัวใจเต้นผิดจังหวะ ยาที่มักใช้คือยาเบต้าบล็อกเกอร์ ซึ่งจะช่วยลดอาการที่เกิดขึ้นในระยะยาวได้
การฝังเครื่องกระตุกหัวใจ (Implantable Cardioverter-Defibrillator: ICD) เป็นวิธีการรักษาเพื่อช่วยให้หัวใจมีภาวะการเต้นคงที่ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นช้า ทั้งนี้ อุปกรณ์ดังกล่าวจะทำงานอัตโนมัติเมื่อพบว่าอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ โดยจะช่วยช็อกหัวใจเพื่อให้หัวใจกลับมาทำงานได้ตามปกติ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะแบบรุนแรง ซึ่งอุปกรณ์จะถูกฝังไว้ใต้กระดูกไหปลาร้า และสามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้ เมื่อแบตเตอรี่หมดอายุการใช้งาน
การสอดสายสวนและใส่ขดเลือดหัวใจ (Coronary Angioplasty and Stent Placement) วิธีการรักษานี้จะใช้ในผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจที่มีอาการค่อนข้างรุนแรง เพื่อช่วยให้เลือดไหลเวียนไปที่หัวใจ ช่วยลดความเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดได้
การผ่าตัดบายพาสหัวใจ (Coronary Bypass Surgery) เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้หัวใจทำหน้าที่สูบฉีดเลือดอย่างเพียงพอ ซึ่งจะทำให้ความเสี่ยงภาวะหัวใจเต้นแผ่วระรัวลดลงได้อย่างไรก็ตาม การรักษาภาวะดังกล่าวนั้นขึ้นอยู่กับสาเหตุและความพร้อมของผู้ป่วยในการรักษา ซึ่งแพทย์จะต้องประเมินสุขภาพผู้ป่วยหลังจากการรักษาอย่างฉุกเฉินอีกครั้งหนึ่ง แล้วจึงแนะนำวิธีการรักษาในขั้นต่อไปได้



ภาวะแทรกซ้อนของ Ventricular Fibrillation

ผู้ป่วยที่มีภาวะนี้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง อาจทำให้ผู้ป่วยตกอยู่ในภาวะโคม่า หรือเกิดผลกระทบต่อร่างกายในระยะยาวได้ รวมทั้งภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ในผู้ป่วย Ventricular Fibrillation ซึ่งได้แก่
ความเสียหายที่ระบบสมองส่วนกลาง
อาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหัวใจ
ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหลังการกระตุกหัวใจ
ภาวะปอดอักเสบจากการสำลัก
อาการบาดเจ็บจากการช็อกไฟฟ้า
อาการบาดเจ็บจากการทำซีพีอาร์
ผิวหนังไหม้
เสียชีวิตการป้องกัน Ventricular Fibrillation



ภาวะหัวใจห้องล่างเต้นแผ่วระรัวสามารถป้องกันได้เบื้องต้น ด้วยการดูแลรักษาสุขภาพให้แข็งแรง โดยปฏิบัติตามวิธีดังต่อไปนี้
รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพ
ออกกำลังกายเป็นประจำ โดยควรออกกำลังกายอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน
ลดปริมาณการสูบบุหรี่ เพราะการสูบบุหรี่จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจและเซลล์อื่น ๆ ในร่างกายโดยรวม
หมั่นตรวจสุขภาพร่างกายอยู่เสมอ โดยควรมีน้ำหนักตัว ความดันโลหิต และระดับคอเลสเตอรอลอยู่ในระดับปกติ จะช่วยลดความเสี่ยง Ventricular Fibrillation ได้อีกทางนอกจากนี้ หากเป็นผู้ที่มีความเสี่ยงด้านสุขภาพเกี่ยวกับหัวใจ หรือมีปัญหาหัวใจอยู่แล้ว ผู้ป่วยควรพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ เพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด จะช่วยให้แพทย์สามารถรับมือได้กับภาวะสุขภาพได้อย่างทันท่วงทีหากเกิดความผิดปกติขึ้น


https://www.pobpad.com

สนใจสินค้านี้ สั่งซื้อราคาถูกพิเศษที่>>http://www.vitamin24hr.com
ถูกที่สุดทั่วไทย สินค้าบริษัท
แอดไลน์ที่>> http://line.me/ti/p/%40vitamin24hr
หรือ ไลน์ไอดี @vitamin24hr
****
วันนี้กดไลค์เพจเราและแชร์แบบสาธารณะ เพื่อลุ้นรับขนาดทดลอง จัดส่งถึงบ้าน ประกาศผลทุกสิ้นเดือนจ้า ^__^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

www.True100percent.com โทร 092-6161666, 02-0027539 : LINE: @mox9486f

เวชสำอางค์ ให้คุณช้อปจนจุใจ